แม้ว่าวันแห่งความรักจะเพิ่งเดินจากเราไป แต่กลิ่นอายของความรักจะยังคงอยู่กับเราเสมอ
ณ วันนี้ เวลานี้ จึงไม่สายเกินไปที่ผมจะมอบ เค้กนางฟ้าราสเบอร์รี่แอนด์ครีม (Raspberry & Cream Angel Cake)
ให้เป็นที่ระลึกกับความรักที่สวยงาม เค้กนางฟ้าเนื้อเบานุ่มกับครีมสดสีขาวสอดไส้ด้วยแยมผลไม้สีแดงอย่างราสเบอร์รี่
ดูเหมือนจะเป็นของหวานๆ สีสวยที่จะทำให้คุณสัมผัสได้ถึงรักแท้
เค้กนางฟ้า มีชื่อเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Angel Food Cake หรือ Angel Cake
ด้วยเนื้อที่โพร่งเบาจึงถึงเปรียบเปรยเสมือนว่าเป็นอาหารของเหล่านางฟ้า เค้กนางฟ้ามีต้นกำเนิดจากประเทศสหรัฐอเมริกา
เค้กนางฟ้าและเค้กชิฟฟ่อนมีลักษณะเบาใกล้เคียงกัน แต่เนื้อสัมผัสนั้นแตกต่าง
เค้กนางฟ้าจะไม่มีส่วนประกอบของไขมันใดๆ และใช้ส่วนประกอบของไข่ไก่แต่เพียงไข่ขาวเท่านั้น
ส่วนเค้กชิฟฟ่อนนั้น มีส่วนผสมของน้ำมันพืช และแม้จะมีการแยกส่วนของไข่แดงไข่ขาวออกจากกัน แต่ไข่แดงที่แยกออกมาก็ถูกใช้เพื่อเป็นส่วนประกอบด้วยเช่นกัน
เนื้อสัมผัสของเค้กนางฟ้าจึงมีลักษณะที่แห้งกว่าเค้กชิฟฟ่อนเล็กน้อย
ความเบาของเค้กนางฟ้านั้นมาจากโครงสร้างของเค้กที่มีอากาศแทรกอยู่มากมาย
จากการตีไข่ขาวกับน้ำตาลทรายให้ฟูเพื่อให้มีโครงสร้างที่แข็งแรง แล้วจึงนำไปผสมกับส่วนประกอบอื่นๆ อย่างเบาๆ ก่อนที่จะนำไปอบให้ขึ้นฟูและสุกดี
เค้กนางฟ้าโดยทั่วไปค่อนข้างหนา ดังนั้นการที่จะให้เค้กสุกดีนั้น ตัวพิมพ์จึงมีลักษณะเป็นปล่องตรงกลางเพื่อให้ความร้อนกระจายได้ทั่วถึง และถ้าสังเกตุให้ดี
จะเห็นว่าตัวปล่องตรงกลางพิมพ์เค้กนั้น จะมีความสูงมากกว่าข้างขอบพิมพ์ด้วยซ้ำ นั่นเป็นเหตุผลมาจากความนุ่มเบาของตัวเค้กซึ่งเมื่อเค้กอบเสร็จใหม่ๆ
เวลาที่เราออกจากเตาอบ เราจะพักเค้กให้เย็นลงในลักษณะตีลังกา เพราะเนื่องจากเค้กชนิดนี้เบาด้วยอากาศ แต่ตัวโครงสร้างไม่ได้แข็งแรงมากเนื่องจากมีจำนวนของแป้งน้อย
เวลาที่ออกจากเตาแล้วจะยุบตัว ดังนั้น เราจึงต้องพักตัวเค้กในลักษณะคว่ำให้ตัวเลค้กทิ้งน้ำหนักตัวลงมา
เมื่อเค้กเย็นลงจะไม่ยุบตัว และการที่เราจะคว่ำเค้กได้นั้น ก็หมายความว่าเค้กชนิดนี้ เราจะไม่มีการทาเนยหรือไขมันใดๆ ที่พิมพ์ทั้งสิ้น
แต่พิมพ์เค้กนั้นจะสามารถแยกออกเป็นสองชิ้น เมื่อต้องการเอาเค้กออกก็ให้แซะเค้กออกมา
……………………………………………
เค้กนางฟ้าราสเบอร์รี่แอนด์ครีม (Raspberry & Cream Angel Cake)
เค้กเนื้อที่เบานุ่มเหมือนปีกนางฟ้าเนื่องจากมีส่วนประกอบหลักคือไข่ขาว สิ่งสำคัญที่ต้องมีคือพิมพ์เค้กชิฟฟ่อนที่มีลักษณะเป็นปล่องตรงกลาง
ยาวเกินขอบพิมพ์เล็กน้อย ซึ่งมีหน้าที่เป็นเหมือนขาเวลาที่เราคว่ำพิมพ์เค้กหลังจากอบเสร็จใหม่ๆ เพื่อให้เค้กเย็นลงในลักษณะตีลังกา
ซึ่งจะทำให้เค้กไม่ยุบตัว รับประทานกับแยมราสเบอร์รี่
- ไข่ขาว 6 ฟอง
- น้ำตาลทราย 85 + 55 กรัม
- แป้งสาลี 70 กรัม
- แยมราสเบอร์รี่ 1 ถ้วย
- ครีม 2 ถ้วย
- กลิ่นราสเบอร์รี่ 1 ช้อนชา
- ราสเบอร์รี่สด แต่งหน้า
- ไวท์ช็อกโกแลตคอมพาวด์ แต่งหน้า
วิธีทำ
- เปิดเตาอบที่ 180 องศาเซลซียส เตรียมพิมพ์ชิฟฟ่อนขนาด 20 เซนติเมตร
- ร่อนแป้งสาลี แล้วนำไปผสมกับน้ำตาลทราย 55 กรัม พักไว้
- ตีไข่ขาวกับน้ำตาล 85 กรัมจนฟูและแน่นดี ใส่ส่วนผสมแป้งที่พักไว้ลงไปทีละน้อย ตะล่อมให้เข้ากัน ใส่ลงในพิมพ์ นำไปอบ 20 นาที
แล้วนำออกมาพักในลักษณะตีลังกาให้เย็นลง ก่อนที่จะใช้พายอันเล็กแซะตัวเค้กออกมาจากพิมพ์ - ตัดเค้กแบ่งออกเป็นสามถึงสี่ชั้น แล้วทาแยมราสเบอร์รี่หนาๆ วางเค้กซ้อนกัน แล้วตีครีมกับกลิ่นราสเบอร์รี่จนแน่นดี แต่งรอบตัวเค้กให้สวยงาม
- แต่งรอบตัวเค้กง่ายๆ ด้วยไวท์ช็อกโกแลต โดยละลายช็อกโกแลตแล้วเทลงบนกระดาษไข ใช้ไม้พายปาดบางๆ ให้ทั่วดี แล้วแปะทับด้วยกระดาษไขอีกแผ่น
ม้วนกระดาษไขที่มีช็อกโกแลตอยู่ด้านใน นำไปแช่เย็นจนช็อกโกแลตแข็งดี เมื่อคลี่กระดาษออก ช็อกโกแลตจะหักออกจากกันเป็นลักษณะแท่งโค้งบางๆ
นำมาแต่งรอบตัวเค้ก พร้อมกับราสเบอร์รี่สดสีสวยอีกเล็กน้อย