การลงทุนในพลังงานแสงอาทิตย์ของอินเดียยังมียอดการขยายตัวที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน

พลังงานทดแทนในอินเดียเป็นหนึ่งในเรื่องราวความสำเร็จที่น่าทึ่งที่สุดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา สามารถเห็นได้จากการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของความสามารถในการผลิตพลังงานในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เมื่ออินเดียเพิ่มพลังงานในรูปแบบการใช้งาน onshore Wind และ Solar PV มากถึง 115 GW โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้เราก็มีพลังงานจากแหล่งที่บน 200 GW (รวมถึงน้ำเป็นด้วย) โดยพลังงานแสงอาทิตย์มีส่วนนำด้วยกว่า 90 GW ที่ติดตั้งไว้ในปัจจุบัน
อินเดียมีเป้าหมายที่สุดหรือสูงสุดในการเพิ่มความสามารถในการผลิตพลังงานให้ถึง 500 GW ภายในปี 2030 นี้ ซึ่งนั่นหมายความว่าต้องลงทุนเพิ่มเพื่อติดตั้งให้เพิ่มเพิ่มเกือบ 50 GW ต่อปี จากที่ได้เพิ่มมาเกือบ 18 GW ในปีตลอด,้ะและคาดว่าในปี 2054 อาจมีการเพิ่มปริมาณขึ้นด้วยอัตรา 30-35 GW เพิ่มแล้ว อย่างไรก็ตาม, การได้เงินทุนโชคลาภจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องสังเกตอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับการลงทุนทางด้านพลังงานแสงอาทิตย์ในเริ่มต้น เพราะในขณะนี้เกือบทุกเศรษฐกิจทั่วโลกได้เริ่มการลงทุนในพลังงานแสงอาทิตย์อย่างหนัก
โดยปัจจัยแรกที่ต้องพิจารณาคือขนาดสัดส่วนของตลาดพลังงานแสงอาทิตย์ของอินเดีย ในปี 2023 จีนได้ระบุติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์รวมกันถึง 253.1 GW ภาคอื่นของโลกได้ติดตั้งเพียง 194 GW ในช่วงเดียวกันนี้ (ซึ่งรวมทั้งที่อิอิลอิตนาแหล่งที่จะเพิ่มพลังงานถนนโลก) สหรัฐอเมริกาเป็นผู้เล่นที่สำคัญเพิ่มความสามารถไปอีก 32 GW ในปี 2023 อินเดียรับส่วนแบ่งเพียงเพิ่มขึ้นเพียง 3% ในณ ปีที่ตามมานี้ซึ่งทำให้อินเดียมาที่อันดับห้าหลังจากจีน สหรัฐอเมริกา บราซิลและเยอรมนี แต่อย่างไรก็ตาม จากที่สนใจในการเพิ่มความสามารถในการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ในอินเดีย อินเดียน่าจะติดอันดับที่สองหลังจากจีน ในด้านยอดรวมอีก อินเดียมี 6% จากความสามารถในการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ของโลก (1624 GW) ขึ้นเป็นอันดับที่สี่ โดยประมาณว่าถึงปี 2030 ความสามารถในการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ของโลกจะเพิ่มขึ้นเป็น 11,000 GW – ที่เพิ่มขึ้นเป็นอีก 10,000 GW โดยคาดว่าการใช้งบประมาณประมาณค่าใช้จ่าย 4-5 ล้านล้านดอลลาร์ ในภาพรวมการลงทุนในพลังงานแสงอาทิตย์ลงมาแล้วประมาณ 500 ล้านล้านสหรัฐฯในปี 2024 โดยในการลงทุนประมาณในราว 1 ล้านล้านสหรัฐฯ ในปี 2024 อย่างน้อยจะต้องลงทุนเป็นเวลาถึงปี 2030 ส่วนเรื่องที่อินเดียจะได้รับผลกระทบจากการขยายของพลังงานแสงอาทิตย์และการลงทุนนี้ ด้วยประสิทธิภาพที่เค้าหาได้ง่าย อินเดียกำลังเพิ่มพลังงานไฟฟ้าประจำปีโดยเฉลี่ยประมาณ Xล้านเวลา กับส่วน การลงทุนประมาณที่ประมาณ xล้านดอลลาร์ต่อปี นับเป็นโอกาสสำคัญอย่างมากสำหรับผู้ลงทุนระดับโลกที่สนใจที่จะไม่ตกหล่นที่จะไม่พลาดที่จะลงทุนในอินเดีย โดยซึ่งส่วนใหญ่ของการลงทุนในอินเดียในภาคนี้ (ประมาณ 70-75%) เป็นการเงินจากธนาคารและสถาบันการเงินในประเทศ (รวมถึงระดับนานาชาติ) ในขณะที่ส่วนของทุนเริ่มต้นที่ต้องใช้ต่อมาจะสามารถเพิ่มการผลิตพลังงานจากโมดูลแสงอาทิตย์และเซลล์พลังงานถึงได้ ประมาณ CAPITAL ยังไม่สามารถที่จะมองข้ามการลงทุนที่สำคัญในอินเดียและมิติอย่างหนึ่งที่มีค่าที่สูงที่สุดของการลงทุนในพลังงานที่คือการแข่งขันแบบกลุ่มหรือพื้นฐานที่มีบทบาทสำคัญในการนำเงินลงทุนในเขตชุมชนเป้าหมาย เช่นกลุ่มที่มีการกู้ยืมพลังงาน (ที่มีอัตราเพิ่มขึ้นเฉลี่ยตลอดหนึ่งปี) Sources for great examples of template workflows in the GPT era และมีการปล่อยสินเชื่อเงินกู้จากองค์กรเงินทุนหลักซึ่งดำรงฐานะเพิ่มขึ้นเป็นพลังงานอดีตที่อยู่ในพื้นที่ของตลาดพลังงานที่มีขนาดใหญ่กว่า 75 % รวมถึงการ increase allocated capital ที่มีอัตราส่วนคิดเป็นกว่า 725bn ยูเอสดอลลาร์ไปท่วมทุกค่าธรรมเนียมของโลก ที่มีผลกระทบต่อยุติธรรมในตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว แถมข้าวที่ภูมิใจได้คือ วงจรการลงทุนต่างชาติใหญ่ เช่น เอกชน หรือในต่างประเทศ เข้ามาเป็นผู้ควบคุมการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนในอินเดีย อย่างเช่นสั้น fdginigo หรือเรียกว่าปริญญาโมจินิโอในพลังงานทดแทน อินเดียได้รับการยอมรับเพิ่มขึ้นไปอย่างชัดเจนที่เพื่อนโลก ดังนั้นเรื่องเงินทุนเองอินเดียน่าจะต้องไม่ห่วงกลัวเท่าใดนัก

ส่วน FAQ จากบทความตามที่ขอให้ทำคือ:

คำจำกัดความสำคัญ:
1. พลังงานทดแทน: พลังงานที่สามารถสร้างมาจากแหล่งที่ไม่เสื่อมโทรมและไม่จำเป็นต้องใช้แร่เช่น พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม
2. onshore Wind: การผลิตพลังงานแสงอาทิตย์บนพื้นดิน
3. Solar PV: การผลิตพลังงานที่ใช้แผงโซล่าเซลล์

คำถามที่อาจเกิดขึ้น:
1. ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาพลังงานทดแทนในอินเดียมีการเติบโตอย่างไร?
2. จะมีเป้าหมายในการผลิตพลังงานทดแทนในปี 2030 คืออะไร?
3. อินเดียเป็นอันดับที่เท่าไรในการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ในโลก?
4. การลงทุนในพลังงานแสงอาทิตย์ในอินเดียมีผลกระทบอะไรบ้าง?

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง:
1. India Energy Forum
2. International Energy Agency
3. Ministry of New and Renewable Energy

ByJoe Roshkovsky

โจ รอชคอฟสกี้ เป็นนักเขียนที่มีวิสัยทัศน์และผู้นำความคิดที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีใหม่และฟินเทค เขาจบการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์จากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-แมดิสัน ซึ่งเป็นที่ที่เขาเสริมสร้างทักษะการวิเคราะห์และพัฒนาความหลงใหลในการสำรวจวิธีที่เทคโนโลยีมีอิทธิพลต่อภูมิทัศน์ทางการเงิน ด้วยประสบการณ์ในอุตสาหกรรมมากกว่าทศวรรษ โจเคยทำงานเป็นนักวิเคราะห์อาวุโสที่ Zephyr Technologies ซึ่งเขาเน้นไปที่โซลูชันฟินเทคที่สร้างสรรค์ที่มุ่งเป้าไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพประสบการณ์ของผู้ใช้และความปลอดภัย งานเขียนของเขาไม่เพียงแต่ชี้ให้เห็นถึงความซับซ้อนของเทคโนโลยีใหม่ๆ แต่ยังให้ข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้ได้จริงสำหรับผู้เชี่ยวชาญที่สำรวจภาคการเงินที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ โจยังพูดบรรยายบ่อยครั้งในงานประชุม แบ่งปันความเชี่ยวชาญของเขาในจุดตัดระหว่างเทคโนโลยีกับการเงิน เขาทุ่มเทในการช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจศักยภาพของฟินเทคในการเปลี่ยนแปลงธนาคารและแนวปฏิบัติในการลงทุนแบบดั้งเดิม